แบรนด์ “Dr.THEP”ตั้งเป้าเปิดตลาดทั่วโลก พร้อมมุ่งมั่นสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย

แบรนด์ “Dr.THEP”ตั้งเป้าเปิดตลาดทั่วโลก พร้อมมุ่งมั่นสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย

ดร.ณัชรัตน์ กล่ำทวี ที่ปรึกษาบริษัท Lucky 889 International (Thailand) Co.,Ltd นำทีมผู้บริหาร ประกอบด้วย นายวีรภัทร ชัยสิทธิ์วรากร CEO บริษัท Lucky 889 International (Thailand) Co.,Ltd , นางสาวสมใจ วิเศษมี รองประธานบริษัทฯ และทีมผู้บริหารหลายฝ่าย ให้การต้อนรับและร่วมประชุมกับนักธุรกิจระดับวีวีไอพีนำโดยประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งรัฐซาบาห์ และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาผู้ประกอบการแห่งรัฐบาลประเทศมาเลเซียชุดปัจจุบัน ท่านดาโต๊ะ ลาดิสเลัาส์ มาลูด้า และคณะ รพหว่าง ระหว่างวันที่ 18-21 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา
ผลที่ได้รับจากการประชุม ระหว่างผู้แทนจากสมาคมสหกรณ์แห่งรัฐซาบาห์ และประธานสภาการค้าและอุตสาหกรรมจากรัฐซาบาห์ ประเทศมาเลเซียครั้งนี้ สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนประการแรก คือ ความร่วมมือทางด้านการทำธุรกิจ นำเข้า ส่งออกระหว่างประเทศไทยกับรัฐซาบาห์ประเทศมาเลเซีย ซึ่งผู้แทนจากรัฐซาบาห์ได้ทำการตัดสินใจ ตกลงที่จะสั่งซื้อสินค้าจากประเทศไทย ภายใต้แบรด์ “Dr.THEP”ราว 4-5 ชนิด ประกอบด้วย กาแฟสมุนไพร, อาหารเสริมสมุนไพรเพื่อสุขภาพ, ยาสีฟันสูตรใหม่เพื่อสุขภาพ รวมถึงเครื่องสำอางค์ สกินแคร์ น้ำยาดับกลิ่นกายสำหรับผู้ชาย ประเภทผลิตจากบริษัท ลัคกี้ 889 อินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ จำกัด จากประเทศไทย กับสมาคมผู้ประกอบการหรือสมาคมสหกรณ์แห่งรัฐซาบาห์ ประเทศมาเลเซีย และสภา หอการค้าและอุตสาหกรรมจากประเทศมาเลเซีย เป็นผลส่วนแรก ที่เกิดจากลัพธ์ในการประชุมจากคณะผู้แทนจากรัฐซาบาห์

ส่วนที่สอง คือ ทางรัฐซาบาห์ ผู้แทนจากรัฐซาบาห์ รวมถึง ผู้แทนจากประเทศไทย คือ ทีมคณะทำงานของ แบรนด์ “Dr.THEP” จะมีความร่วมมือในสเกลระดับที่ใหญ่ขึ้น นั่นก็คือจะเกิดความร่วมมือที่จะจัดงาน ไทยแลนด์ซาบาห์ บิสซิเนสเอ็กซ์ซิบิชั่น 2025 ภายในไตรมาสที่สอง เมษายนถึงมิถุยายน กลางปีหน้า ถือได้ว่าเป็นไฮไลท์ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศมาเลเซีย เพราะการจัดงานแสดงสินค้า เป็นความร่วมมือระหว่างกัน จะมีกิจกรรม สอดแทรกเข้าไปอีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการจับคู่ทางการค้าระหว่างผู้ประกอบการไทย อย่างน้อยจะมีจำนวน 100 ราย เพราะได้มีการเตรียมสินค้าที่จะไปจัดแสดงสินค้าที่บูท ซึ่งสถานที่จัดงานจะทันสมัย และยิ่งใหญ่มาก ที่ศูนย์การประชุมนานาชาติแห่งรัฐซาบาห์ ประเทศมาเลเซีย (sabar convention center หรือ SICC)
ที่ศูนย์การประชุมนานาชาติแห่งรัฐซาบาร์ มีพื้นที่ 300-500 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังมีฮอลล์ขนาดใหญ่อีกหลายสิบฮอลล์ และมีห้องประชุมบิสซิเนสแมตชิ่ง และที่สำคัญคือ ความสวยงามของการออกแบบตกแต่งมีความโดดเด่น และตัวอาคารแห่งนี้ ติดกับชายฝั่งทะเลจีนใต้ จากการสอบถามจากผู้แทนรัฐซาบาห์ ณ ขณะนี้ ขนาดของศูนย์ประชุมสินค้านานาชาติแห่งนี้ เรียกได้ว่า เป็นอันหนึ่งของเอเซีย ที่น่าสนใจมาก ก็จะเกิดความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการไทยไม่ต่ำกว่า 100 ราย กับผู้ประกอบการจากรัฐซาบาห์

รัฐซาบาห์ ตั้งอยู่ติดกับรัฐ ซาราวัก บูรไน และกาลิมันตัน น่าจะมีผู้ประกอบการจากผืนแผ่นดินใหญ่จากประเทศมาเลเซีย จากกัวลาลัมเปอร์มาร่วมด้วย ดังนั้น ไม่ได้แปลว่าเป็นความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างประเทศไทยกับรัฐซาบาห์ จึงน่าจะเป็นการจัดบิสซิเนสวีค ระหว่างไทยแลนด์กับรัฐซาบาห์ ดังนั้น ก็น่าจะเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศไทยกับประเทศมาเลเซียก็ว่าได้
นอกจากบิสซิเนสแมตชิ่งทางธุรกิจแล้ว ก็จะมีการแสดงศิลปะวัฒนะธรรม ทั้งของไทยและของมาเลเซีย เรียกได้ว่าเป็นซอฟเพาเวอร์ ที่จะทำให้ประเทศไทยเกิดขึ้นชื่อเสียง ทำให้คนทั่วโลกรู้จักประเทศไทยมากขึ้น น่าจะมีการนำมวยไทย หรือการแสดงศิลปะวัฒนธรรมไทยเช่น โขน ลำตัด ลิเก รำไทย ไปได้หมด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด แต่กลุ่มผู้ประกอบการหลักที่ผมมองคือ เรื่องของอาหารน่าจะมีจำนวนมากแน่นอน และอีกส่วนหนึ่งคือ บูทส่งเสริมการท่องเที่ยว สามารถดึงนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียมาโดยยอดและรายได้ต่อปีจากนักท่องเที่ยวมาเลเซีย ขณะนี้ติดอันดับหนึ่ง ที่เข้ามาประเทศไทย เฉพาะฉะนั้นจะตรงเป้าหมายเลย

ส่วนเรื่องที่สาม ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญของการประชุมรอบนี้ ของผู้แทนจากรัฐซาบาห์ ได้มีการประชุมความร่วมมือ ในด้านการสำรวจและขุดเจาะปิโตเลียมและน้ำมัน แต่โดยรายละเอียดจะมีการพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง แต่โดยหลักการกลุ่มผู้ประกอบการจากรัฐซาบาห์ มีความสนใจ ต้องการความเชี่ยวชาญความร่วมมือจากบริษัทใหญ่ๆในประเทศไทย เข้าไปพัฒนาและลงทุน ในการขุดเจาะก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน ให้กับทางรัฐซาบาห์ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่
ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นจะมีกิจกรรมทั้งในด้าน ธุรกิจ องค์กร บริษัทในรัฐซาบาห์ การจัดสัปดาห์สินค้าระหว่างประเทศไทยกับรัฐซาบาห์ และความร่วมมือด้านพลังงาน และต่อๆไปจะมีเรื่องสืบเนื่องจากข้อหนึ่ง กำลังทำร่างข้อตกลงระหว่างบริษัทลัคกี้ 889 อินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์กับทางสมาคมสหกรณ์รัฐซาบาห์ กับสภาหอการค้าแห่งรัฐซาบาห์ เรื่องที่เกี่ยวเนื่องคือเรื่องที่รัฐซาบาห์เขาต้องการทั้งระบบโลจีสติก ระบบการดูแลบริหารจัดการคลังสินค้า ระบบด้านไอทีทั่งหมดเข้าไปช่วย ผู้ประกอบการของรัฐซาบาห์ด้วย เพราะรัฐซาบาห์ ถือว่าเป็นรัฐใหญ่อันดับสอง รองจากรัฐกัวลาลัมเปอร์ เข้าต้องการเรื่องเทคโนโลยีเข้าไปพัฒนารัฐซาบาห์

นายวีรภัทร ชัยสิทธิ์วรากร CEO บริษัท Lucky 889 International (Thailand) Co.,Ltd

โดยสรุปก็จะมีความร่วมมือด้านเทคโนโลยีเกิดขึ้นอีก เฉพาะฉะนั้นเราจะได้ทั้งธุรกิจ พลังงาน และเทคโนโลยี และต่อไปจะเกิดความร่วมมือกับรัฐซาบาห์ในส่วนของกิจกรรมกีฬา ซึ่งกิจกรรมนี้จะเกิดขึ้นเร็ว ตอนนี้ที่เตรียมงานอยู่คือ กิจกรรมฟุตบอล ในฐานะที่ผมเป็นประธานสหพันธ์ฟุตบอลวีไอพีโลก (VWFF) จะมีการจัดการแข่งขันฟุตบอลที่ชื่อว่า ซาบาห์ดร.เทพคลับ 2024 ที่ผู้แทนสหพันธ์ฟุตบอลวีไอพีโลกที่รัฐซาบาห์ กำหนดวันไว้คือวันที่ 21-22 ธันวาคมนี้ โดยจะเป็นฟุตบอลวีไอพีภายในรัฐซาบาห์ก่อน ประมาณ 50-100 ทีม โดยบริษัทที่ผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ แบรนด์ “Dr.THEP”จะมีการสนับสนุนในเรื่องของเงินรางวัล ถ้วยรางวัลและชุดกีฬาต่างๆ และทุกๆกิจกรรมโดยตัวผมเองมีความตั้งใจว่า จะนำผู้สื่อข่าว สื่อมวลชนจากประเทศไทย ร่วมทำข่าว เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ความร่วมมือนี้ให้เกิดขึ้น โดยมีเจตนารมย์ที่ยิ่งใหญ่ก็คือ ผมอยากให้มีความร่วมมือระดับภาคเอกชนก่อน ก็จะเป็นต้นแบบของความร่วมมือในภาคเอกชน ซึ่งจะนำขยายไปสู่ความร่วมมือระหว่างรัฐกับรัฐ ไปสู่ภูมิภาคอื่นๆ ต่อไปอาจจะเป็นความร่วมมือระหว่าไทยกับเกาหลี ไทยกับญี่ปุ่น ไทยกับจีน แต่ว่าจะอยู่ภายใต้แบรนด์ ดร.เทพ ก็จะครอบคลุมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นด้านการค้า กีฬา ต่อไปอาจจะมีการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษา เวลเนส สุขภาพความงาม ก็จะส่งผลดีกับทุกอย่าง สิ่งแรกเลยคือ กิจกรรมที่ดร.เทพ จะทำตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป คือ เรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพราะถ้าได้สิ่งนี้แล้ว อย่างอื่นก็ตามมาได้ทั้งหมด รวมถึงซอฟเพาเวอร์ก็มีอีกส่วนหนึ่งที่ต้องทำ เพราหลักๆแล้ว วัตถุประสงค์ของผม ในฐานะที่เป็นประธานกลุ่ม ดร.เทพ คือ ผมต้องการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ในทุกๆเรื่อง และท้ายที่สุดก็จะเชื่อมโยงไปสู่เรื่องการเมือง ก็อยากจะให้ดี ทั้งเรื่อง เศรษฐกิจ การเมือง ความมั่นคง ศิลปะวัฒนธรรม สังคม ก็ควรจะดีทั้งหมด
อีกด้านหนึ่งคือ ผมต้องการให้แบรด์ แบรนด์ “Dr.THEP” เกิดมูลค่าเพิ่ม หมายความว่า ถ้าสินค้า แบรนด์ “Dr.THEP”ไปที่ไหน คนก็จะเห็น คนก็จะทราบ เขาก็จะรู้ว่ามาจากประเทศไทย ผมก็จะพยายามให้ชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ก็จะมีรายได้ในส่วนของการท่องเที่ยว และมีนักท่องเที่ยวสนใจเข้ามาเล่นกีฬาในประเทศไทย ก็ได้เรื่องกีฬา รวมถึง พยายามทำให้ชาวต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยด้วย ท้ายที่สุดประเทศไทยจะได้ทุกส่วน มาช่วยพัฒนาประเทศชาติ ทำให้ประเทศไทยอยู่บนจอเรด้าของโลก ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 


ในการประชุม 3 วันที่ผ่านมา ที่คณะดร.เทพ ดูแล คณะผู้แทนระดับสูงจากรัฐซาบาห์ ตั้งแต่วันแรกที่ผู้แทนจากรัฐซาบาห์เปิดใจคุยกับผม เขาประทับใจมากตั้งแต่ไปรับคณะที่สนามบิน เราต้อนรับ และบริการเป็นอย่างดี โดยเฉพาะไฮไลท์ วันแรกคือการพาคณะล่องเรือชมทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมทานอาหารค่ำบนเรือสำราญ คณะเขามีความสุขกับอาหารและบรรยากาศยามค่ำคืน ผมยังจำได้ ผู้แทนจากรัฐซาบาห์ได้เขียนลงในเฟสบุ้ค “สองชั่วโมงบนเรือเปรีบบเสมือนสองชั่วโมงบนสวรรค์” เขาประทับใจมากๆ ซึ่งเฟสบุ้คเขาไปถึงประเทศมาเลเซีย ไปถึงฟิลิปปินส์ ก็เป็นการช่วยเผยแพร่ชื่อเสียงความสวยงามของการท่องเที่ยวและประเทศไทยไปอีกทางหนึ่ง ตรงนี้ ถ้ามองดีๆ จะเกิดมูลค่ามหาศาล
ความประทับใจในส่วนที่สอง คือ ในที่ประชุม ธรุกิจการค้าระหว่าง บริษัทลัคกี้ 889 อินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์กับทางสมาคมสหกรณ์รัฐซาบาห์ เขาได้ระบุว่า สินค้าจากประเทศไทยมีผู้คนชื่นชอบไปทั่วโลก และมีมาตราฐานโลก เวิลด์สแตนดาด และเขามองว่าสินค้าไทยยังมีโอกาสอีกมาก เพราะสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกเริ่มฝันฝวน เริ่มไม่แน่นอน แต่สินค้าไทย ไปได้หมด และหลายๆคนในที่ประชุมก็ได้รับทราบ และล่าสุดวันที่สาม ก่อนคณะเขาจะบินกลับ เราก็ไปส่งเขา เขาก็พูดว่า อาหารไทยเป็นสิ่งที่เขาชอบมาก รับประทานกันอย่างเอร็ดอร่อย สรุปเขาประทับใจทุกเรื่อง โดยไม่มีสิ่งใดพกพร่องเลย

“จริงๆแล้วผมพาคณะที่ดูแลสินค้าภายใต้ แบรนด์ “Dr.THEP”ไปเปิดตลาดที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนิเซีย มาก่อนหน้านี้แล้วราวสองสามอาทิตย์แล้ว ประเทศต่อไปที่น่าจะมีการลงนามซื้อขาย น่าจะเป็นอินโดนิเซีย เพราะอย่างในเป้าหมายควอเตอร์สุดท้ายของปีนี้ เราจะเน้นแค่สองประเทศก่อนคือ มาเลเซียและอินโดนิเซีย ส่วน ปีหน้าจะมีการปรับแผน ภายสองไตรมาสแรกจะขยายไปที่ยุโรป เยอรมัน เบลเยี่ยม ฮอลแลนด์ คือ 3 เป้าหมายหลัก ส่วนในกลุ่มอาเซียน ขอพิจารณาดูก่อนว่าจะไปประเทศไหนก่อน ส่วนไตรมาสที่สามที่สี่ น่าจะไปในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ตั้งเป้ากระจายสินค้า ภายใต้แบรนด์ “Dr.THEP” ไปทั่วโลก รวมถึงตลาดในกลุ่มเอเซียกลาง เช่นประเทศ อุสเบกีสสถาน เป็นประเทศรัฐเครือข่ายของสหภาพโซเวียดเก่า เป็นประเทศที่มีพลัง มีอำนาจในการจับจ่ายใช้สอยสูง ก็เป็นอีกช่องทางที่น่าสนใจให้กับกลุ่ม ดร.เทพ ได้เข้าไปเปิดตลาด โดยรวมแล้วผมทำเพื่อประเทศไทยล้วนๆ เป็นการโปรโมทประเทศไทยผ่านตัวสินค้า แบรนด์ ดร.เทพ นอกจากนี้ จะโปรโมทประเทศไทย ผ่านกีฬาด้วย ในฐานะที่ผมเป็นประธานฟุตบอลวีไอพีโลกไปพร้อมกัน
ที่สำคัญ เป็นกำลังใจให้กับพี่น้องที่ทำธุรกิจ เพราะสินค้าของดร.เทพ มีตำแหน่งหรือจุดยืนทางการตลาดของเราคือเน้นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นหลัก เฉพาะสินค้าเราต้องมีคุณสมบัติที่เป็นอินเตอร์ เป็นระดับสากล รวมถึงการใส่ใจด้านการผลิต ทั้งเรื่อง คุณภาพในตัวสินค้าต้องมีความเป็นสากล หรือเรียกได้ว่าเป็นสินค้าพรีเมี่ยมเกรด AA นอกจากนี้ผมยังเปิดกว้าง เรื่องของการขยายสินค้าภายใต้แบรนด์ดร.เทพให้มากขึ้น และขึ้นชั้นวางในห้างสรรพสินค้าชั้นนำของประเทศไทย รวมไปถึงทั่วโลก ก็ต้องพบเจอสินค้า แบรนด์ “Dr.THEP”
ดร.เทพ กล่าวทิ้งท้าย