Trending
‘Gemminy’ สร้างปรากฎการณ์ใหม่ในวงการแฟชั่น ดึงดีไซน์สุดหรูสู่แบรนด์กระเป๋าสายมูฯ

‘Gemminy’ สร้างปรากฎการณ์ใหม่ในวงการแฟชั่น
ดึงดีไซน์สุดหรูสู่แบรนด์กระเป๋าสายมูฯ

จีร่า แฟชั่นดีไซเนอร์ไทย จับงานออกแบบคู่มูเตลูสู่ไอเท็มแฟชั่นสไตล์หรูเฉียบ ผ่านแบรนด์ ‘Gemminy’ วางเป้าหมายขยายตลาดเอเชีย



จิรสุดา วัฒนาก้องกิจ หรือ ‘จีร่า’ ดีไซเนอร์ไทยสาววัย 33 ปี ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Gemminy (เจมมินี่) บอกเล่าแนวคิดสินค้าแบรนด์เจมมินี่ เริ่มจากเมื่อช่วง 2-3 ปีก่อน ด้วยมองเห็นโอกาสในตลาดแฟชั่น จากพฤติกรรมคนทั่วไป โดยเฉพาะในกลุ่มคนวัยทำงาน ที่นำความเชื่อการเสริมสิริมงคลในด้านต่างๆ มาใช้ในชีวิตประจำวัน มากขึ้น อย่างการเลือกใส่ ‘สี’ เสื้อในแต่ละวัน เพื่อเสริมกำลังใจให้ผู้ใส่มีพลังในแต่ละวัน

“กระเป๋าแบรนด์เจมมินี่ จะเป็นไอเท็มแฟชั่นที่สะท้อนความเรียบหรูสวยงาม เพื่อให้ผู้ใช้งานถือติดตัวไปได้ตลอด ผ่านสัญลักษณ์บัคเคิล Lucky Charms ที่ดึงดูดความเป็นมงคลในด้านต่างๆ”

สำหรับแบรนด์ ‘Gemminy’ คุณจีร่า กล่าว่า เธอได้ให้ความใส่ใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบรูปทรงสินค้า การใช้วัสดุ ไปจนถึงการตัดเย็บ จากการคัดเลือกผู้ผลิต (Supplier) ระดับเดียวกับสินค้า แอคเซสซอรี แบรนด์เนมต่างประเทศ จนได้กระเป๋าแฟชั่นดีไซน์คุณภาพระดับไฮเอนด์ ในระดับราคาเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายในแต่ละช่วงวัย ที่ต้องการให้ Gemminy เป็นตัวแทนของความสุข พร้อมมอบเป็นรางวัลแห่งความสำเร็จของตัวเองในทุกช่วงเวลาของชีวิต

โดย “Gemminy” มี strong passion ในเรื่องของสัญลักษณ์ที่มีความหมาย ซึ่งเรียกว่า Lucky Charms จาการเลือกสัญลักษณ์แห่งความโชคดี คือ เกือกม้า ตามความเชื่อของหลากหลายวัฒนธรรมในฐานะเครื่องรางนำโชค และ สัญลักษณ์ อินฟินิตี้ ที่มีความหมาย ไม่มีที่สิ้นสุด และยังเป็นเลขมงคลของชาวจีน ที่เลข 8 หมายถึงความมั่งคั่ง ที่กลายเป็นแรงบันดาลใจสู่การออกแบบ บัคเคิล (Buckle) ที่ใช้ตกแต่งกระเป๋า Gemminy เพื่อสื่อถึงพลังแห่งความโชคดีให้กับผู้ใช้งาน

“เจมมินี่ เปิดตัวคอลเลคชั่นแรกในชื่อ ‘Illuminating’ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากการนำศิลปะโรมันมาใช้ร่วมกับการออกแบบลวดลาย และตกแต่งด้วยคริสตัลชวารอฟสกี โดยเรียกชิ้นงานนี้ว่า Jewelry ในรูปแบบ Buckle เพื่อนำมาตกแต่งบนกระเป๋าใบโปรด” คุณจีร่า กล่าวเพิ่มเติม

ขณะที่ อีกหนึ่งจุดเด่นของเจมมินี่ คือ การออกแบบกระเป๋าในแต่ละประเภทวัสดุซึ่งมีสไตล์คลาสสิคเพื่อให้สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งในรูปแบบ casual หรือจะออกงานแบบเป็นทางการ ซึ่งขึ้นอยู่กับการมิกซ์แอนด์แมทช์การแต่งกายของผู้ใช้งาน

ในส่วนของช่องทางการทำตลาดสินค้าแบรนด์เจมมินี่ ในเบื้องต้น ทางแบรนด์ได้เน้นการแนะนำสินค้าผ่านช่องทางบนแพล็ตฟอร์ม ไอจี (IG-Gemminy.Official) และ เฟซบุ๊ก (fb-Gemminy.Official) เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผู้หญิง ที่มีความคุ้นเคยในการเลือกดูและสั่งซื้อสินค้า ในช่องทางออนไลน์ เป็นหลักในปัจจุบัน ขณะเดียวกัน แบรนด์เจมมินี่ ยังเตรียมนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายผ่านเคาน์เตอร์ ในศูนย์การค้าชั้นนำ คาดพร้อมเปิดตัวสาขาเคาน์เตอร์ ในเดือนกันยายนนี้ และวางแผนขยายจุดจำหน่ายผ่านเคาน์เตอร์ จำนวน 5 แห่งภายใน 5 ปีนับจากนี้ พร้อมมองต่อไปถึงการขยายตลาดแบรนด์เจมมินี่ ไปยังภูมิภาคเอเชีย โดยเตรียมเข้าตลาดในประเทศสิงคโปร์ กัมพูชา และฮ่องกง รองรับกลุ่มเป้าหมายลูกค้าผู้หญิง ที่มีกำลังซื้อสินค้าแฟชั่น ที่มีการเติบโตสูง ในตลาดประเทศดังกล่าว

“กัมพูชา ในตอนนี้เป็นตลาดแฟชั่น ที่กำลังเติบโตและค่อนข้างมีกำลังซื้อในกลุ่มเป้าหมายระดับบน ซึ่งหากเจมมินี่ เข้าไปทำตลาดนี้ได้ก็จะเป็นการสร้างแบรนด์ ออฟ มายด์ แฟชั่นในผู้บริโภคชาวกัมพูชาได้ก่อน ส่วนในประเทศสิงคโปร์ และ ฮ่องกง นั้นเป็นประเทศที่มีพาร์ทเนอร์อยู่ก่อนหน้า และมองว่าเป็นตลาดแฟชั่นที่พร้อมเปิดรับแบรนด์จากต่างประเทศเป็นอย่างดี เช่นกัน” คุณจีร่า กล่าว

นอกจากนี้ แบรนด์เจมมินี่ ยังเตรียมปรับโฉมใหม่โลโก้แบรนด์ ภายใต้คัลเลอร์ ไอเดนติตี (CI) สีแดงเบอร์กันดี สะท้อนความหรูหราและดูดี เพื่อทำตลาดเชิงรุกนับจากนี้ไป คาดพร้อมเปิดตัวในเดือนกันยายนนี้

แผนธุรกิจของแบรนด์เจมมินี่ ภายใน 3-5 ปีจากนี้ ตนได้วางเป้าหมายไว้ใน 2 ส่วนหลัก คือ หนึ่งการเติบโตของธุรกิจ โดยเตรียมสร้างโรงงานผลิตสินค้าแบรนด์เจมมินี่ เพื่อรองรับตลาดทั้งในและต่างประเทศที่จะขยายตัวในอนาคต พร้อมวางแผนขยายไลน์สินค้าไอเท็มใหม่ภายใต้แบรนด์เจมมินี่ เช่น รองเท้า แอคเซสซอรี ภายใต้แนวคิดแฟชั่นดีไซน์หรูหราผสานความสิริมงคล ผ่านเรื่องราวความหรูหราของเครื่องประดับ

และในส่วนที่สอง คือ การส่งต่อแรงบันดาลใจดีๆ ผ่านความสำเร็จและเรื่องราวของแบรนด์เจมมินี่ ที่มีต่อผู้คนหรือลูกค้าแบรนด์เจมมินี่ ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตในแต่ละช่วงวัยอายุ ที่พร้อมบอกเล่า แลกเปลี่ยนมุมมอง ความคิดทั้งการทำงานและการใช้ชีวิต ภายในสังคมเจมมินี่ Gemminy Society ที่สามารถต่อยอดไปสู่รูปแบบการจัดงานอีเวนต์แบบเฉพาะกลุ่ม ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งตนมองว่าเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญในอนาคต นอกเหนือจากความสำเร็จทางธุรกิจในตลาดสินค้าแฟชั่น

“จีร่า เชื่อว่าความสำเร็จดีๆ ในแต่ะด้านของคน จะเป็นสิ่งที่ดึงดูดเข้าหากันได้ซึ่งหากใครคนหนึ่งประสบความสำเร็จในเรื่องใดแล้ว ก็สามารถที่จะแชร์หรือส่งต่อเรื่องราวดีๆ เหล่านี้ระว่างกันได้ เช่นเดียวกับการแต่งตัวที่ดูดีในแต่ละวัน ที่สามารถสร้างเป็นภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตัวเราได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ก็จะดึงดูดให้เราเจอแต่สิ่งดีๆ ตามมาเช่นกัน” คุณจีร่า ปิดท้าย