6 เครื่องประดับไทยร่วมสมัย เมื่อมรดกวัฒนธรรมกลายเป็นแฟชั่นไอเทมแห่งยุคใหม่ เชื่อมรากเหง้าความเป็นไทยกับเข้ากับความงดงาม

ในยุคที่โลกไร้พรมแดน เครื่องประดับไทยกำลังสร้างปรากฏการณ์ใหม่บนเวทีระดับโลก ไม่ใช่เพียงแค่ของสวยงามที่ดูดีบนตัว แต่คือการเล่าเรื่องราวของความเป็นไทยผ่านการออกแบบที่ผสานความคลาสสิกเข้ากับความร่วมสมัยอย่างลงตัว และแน่นอนว่า “กิจกรรมการพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์และผลิตภัณฑ์สู่ Fashion Hero Brand” นับว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่จะช่วยขับเคลื่อน และสร้างอัตลักษณ์ให้แบรนอัญมณีและเครื่องประดับไทย โดยได้รับการสนับสนุนจาก กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม ภายใต้ นโยบาย “ดีพร้อม คอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักแบรนด์เครื่องประดับที่ขับเคลื่อนวงการอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย
ศิลปะไทยไม่ใช่แค่อดีต แต่เป็นอนาคต
หากคุณคิดว่าเครื่องประดับไทยเป็นเพียงแค่ของเก่าแก่ที่เหมาะสำหรับโอกาสพิเศษเท่านั้น ถึงเวลาแล้วที่จะเปลี่ยนมุมมองนี้ แบรนด์อย่าง DHANU ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเครื่องทองรัตนโกสินทร์สามารถแปลงโฉมให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ร่วมสมัยได้อย่างน่าทึ่ง
ธนูเดช เกิดวิเศษสิงห์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ มองว่า “ศิลปะไทยไม่ใช่แค่อดีต แต่เป็นมรดกที่มีชีวิตและเติบโตไปกับอนาคต” การผสมผสานระหว่างเทคนิคดั้งเดิมกับการออกแบบร่วมสมัยทำให้เครื่องทอง เครื่องถม และเครื่องเงินชุบทองลงยากลายเป็นสเตทเมนต์ชิ้นที่ใครๆ ก็อยากครอบครอง
เมื่อเสียงเพลงไทยกลายเป็นเครื่องประดับ
ใครจะคิดว่าเสียงเพลงไทยจะสามารถ “สวมใส่” ได้? Orithai ทำให้ความฝันนี้เป็นจริงผ่านคอลเลกชัน ‘คลอสังคีต’ ที่ทำให้ดนตรีไทยสามารถเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเรา ณัฐสุษมา พงศ์เขมนันท์ อธิบายแนวคิด “Only Original Thai Aesthetic” ว่าไม่ใช่แค่การนำรูปทรงเครื่องดนตรีมาทำเป็นเครื่องประดับ แต่เป็นการถ่ายทอดจิตวิญญาณและความหมายของดนตรีไทยให้ผู้สวมใส่สัมผัสได้อย่างใกล้ชิด นี่คือการยกระดับเครื่องประดับให้เป็นมากกว่าแฟชั่นไอเทม แต่เป็นสื่อกลางที่ทรงพลังในการเชื่อมต่อกับรากเหง้าทางวัฒนธรรม
ลักซ์ชัวรี่ที่เคลื่อนไหวได้
ในโลกของ Fine Jewelry ShuTa by TUI Jewelry ได้สร้างนิยามใหม่ด้วยคอนเซ็ปต์ “Movement Jewelry” เครื่องประดับที่ไม่เพียงแค่สวยงาม แต่ยังมีชีวิตชีวาด้วยการเคลื่อนไหวที่หมุนได้ Thai Luxury Design ของ ShuTa ไม่ได้หยุดอยู่แค่ความหรูหรา แต่ยังเป็นการบอกเล่าตัวตนผ่านศิลปะแห่งเครื่องประดับ ทำให้ทุกชิ้นงานกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผู้สวมใส่
จากพระนครศรีอยุธยาสู่ระดับโลก
VANDA’S ที่ก่อตั้งโดย เกรียงศักดิ์ รัตนานนท์ จากเมืองกรุงเก่าพระนครศรีอยุธยา เป็นตัวอย่างที่ดีของการนำมรดกทางวัฒนธรรมไปสู่ระดับพรีเมียม ทุกชิ้นงานผ่านกระบวนการคัดสรรวัสดุคุณภาพสูง ตั้งแต่ทองคำแท้ เพชรแท้เบลเยียมคัท จนถึงอัญมณีหายาก สิ่งที่ทำให้ VANDA’S โดดเด่นคือการให้ความสำคัญกับเรื่องราวและคุณค่าที่สามารถส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นได้ ไม่ใช่แค่เครื่องประดับแต่คือ มรดกตกทอดที่มีความหมาย
เผยความเป็นตัวตนผ่านแหวนตรา
ในโลกที่ทุกคนต้องการความเป็นเอกลักษณ์ Helios Jewellery ได้ยกระดับแหวน Signet Ring หรือ “แหวนตรา” ที่เคยเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจของชนชั้นสูงในอดีต ให้กลายเป็นเครื่องประดับที่สะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะตัว การออกแบบที่ปรับแต่งได้ตามใจ (customizable) ทำให้ทุกวงไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นลวดลาย ตราสัญลักษณ์ หรือการประดับด้วยอัญมณี ทำให้แหวนแต่ละวงกลายเป็นการเล่าเรื่องราวส่วนตัวที่ไม่มีใครเหมือน
ศิลปะดิจิทัลสำหรับเครื่องประดับยุคใหม่
GRAJANG นำเสนอมุมมองใหม่ของเครื่องประดับไทยผ่านเทคนิค Digital Craft ที่ทันสมัย ลายไทย ฉลุไทย และองค์ประกอบทางศิลปดั้งเดิมถูกถ่ายทอดใหม่ในรูปแบบโมเดิร์นที่ประณีตและแฝงไปด้วยความหมาย นี่คือการพิสูจน์ว่าเทคโนโลยีสามารถเป็นเครื่องมือในการอนุรักษ์และต่อยอดศิลปะไทยได้อย่างสร้างสรรค์
เครื่องประดับไทยร่วมสมัยไม่ใช่เพียงแค่เทรนด์ที่ผ่านไปได้ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงวิธีคิดของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเชื่อมต่อกับรากเหง้าทางวัฒนธรรมในแบบที่เป็นตัวเอง การสวมใส่เครื่องประดับเหล่านี้ไม่ใช่แค่การแต่งตัว แต่เป็นการแสดงออกถึงความภาคภูมิใจในความเป็นไทย การสนับสนุนฝีมือช่างไทย และการเป็นส่วนหนึ่งของการสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมสู่อนาคต
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กองพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทร. 0 2430 6883 กด 2 หรือติดตามความเคลื่อนไหว และข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่ www.diprom.go.th หรือ www.facebook.com/dipromindustry